การศึกษาดูงาน โรงเรียนอนุบาลนครปฐม จังหวัดนครปฐม
วันที่ 23 กรกฎาคม 2552
*****************************************
ข้อมูลพื้นฐาน
โรงเรียนอนุบาลนครปฐม ปัจจุบันตั้งอยู่เลขที่ 9 ถ.เทศา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เป็นโรงเรียนในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 1 โซนบูรพาศึกษา เริ่มก่อตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2496 โดยตั้งรวมอยู่กับโรงเรียนโรงเรียนราชินีบูรณะ อาศัยห้องชั้นล่างห้องหนึ่งของอาคารเรียนพิพิธอำพลบูรณะ เป็นที่เรียน โดยมีนางสาวสาคร เทวาหุดี อาจารย์ใหญ่โรงเรียนราชินีบูรณะ เป็นผู้รักษาการดำเนินการ
วันที่ 23 กรกฎาคม 2552
*****************************************
ข้อมูลพื้นฐาน
โรงเรียนอนุบาลนครปฐม ปัจจุบันตั้งอยู่เลขที่ 9 ถ.เทศา ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เป็นโรงเรียนในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 1 โซนบูรพาศึกษา เริ่มก่อตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2496 โดยตั้งรวมอยู่กับโรงเรียนโรงเรียนราชินีบูรณะ อาศัยห้องชั้นล่างห้องหนึ่งของอาคารเรียนพิพิธอำพลบูรณะ เป็นที่เรียน โดยมีนางสาวสาคร เทวาหุดี อาจารย์ใหญ่โรงเรียนราชินีบูรณะ เป็นผู้รักษาการดำเนินการ
วันที่ 17 มิถุนายน 2497 ได้ย้ายไปอยู่ที่แห่งใหม่ คือ ที่อยู่ปัจจุบัน โดยก่อสร้างเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวสร้างตามแบบของกรมสามัญศึกษา และมีนางนิยม ใจห้าว เป็นครูใหญ่ สังกัดกองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญ
วันที่ 13 สิงหาคม 2511 นางสาวยุพาพร บุษสาย ได้ย้ายมาแทน ปี 2512 ได้ก่อสร้างต่อเติมอาคารจากเดิมอีก 2 ห้องเรียน ด้วยเงินงบประมาณ นับเป็นอาคารหลังที่ 1
ปี พ.ศ. 2514 ได้สร้างอาคารเรียนหลังที่ 2 เป็นตึก 2 ชั้น แบบ 504 มี 8 ห้องเรียน สร้างโดยเงินงบประมาณ 500,000 บาท และเงินบำรุงการศึกษา 90,000 บาท
ปี พ.ศ. 2523 ได้สร้างอาคารเรียนหลังที่ 3 เป็นตึก 3 ชั้น จำนวน 10 ห้องเรียน ด้วยเงินบริจาค จำนวน 50,000 บาท และเงินบำรุงการศึกษา 875,000 บาท
1 ตุลาคม 2523 โรงเรียนอนุบาลนครปฐม ได้โอนจากกองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษาซึ่งเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัดเดิม มาขึ้นอยู่ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ และ ปี พ.ศ. 2529 ได้สร้างอาคารเรียนหลังที่ 4 เป็นตึก 4 ชั้น แบบรัตนโกสินทร์ มี 20 ห้องเรียน ชั้นล่าง เป็นห้องเอนกประสงค์ สร้างด้วยเงินงบประมาณ 5,800,000 บาท ซึ่งสร้างแทนอาคารไม้ชั้นเดียวหลังที่ 1 ที่ได้ทำการรื้อถอนไปเนื่องจากทรุดโทรมมาก ชื่อว่า "อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา รัชกาลที่ 9"
นางสาวยุพาพร บุษสาย ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ จนกระทั่งเป็นผู้อำนวยการ ระดับ 8 มี 48 ห้องเรียน ครู 89 คน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ 4 คน และมีนักเรียน 2,029 คน และได้เกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2534 รวมระยะเวลาที่เป็นผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลนครปฐมถึง 23 ปี
วันที่ 1 ธันวาคม 2534 นางสาวขจี รัตนพาหุ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปราจีนบุรี ได้ย้ายมารักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครปฐม ซึ่งขณะนั้นมีครู 89 คน มี 48 ห้องเรียน มีนักเรียน 2,030 คน มีอาคารเรียน 4 หลัง และอาคารประกอบ 5 หลัง
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2539 นายประภูศักดิ์ ไขว้พันธุ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพระประโทณเจดีย์ ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน และปี พ.ศ. 2540 สร้างอาคารเรียนหลังที่ 5 เป็นอาคารตึก 3 ชั้น แบบกาญจนาภิเษก ชั้นล่างเป็นห้องประกอบอาหาร ชั้นที่ 2 เป็นห้องคอมพิวเตอร์ ชั้นที่ 3 เป็นห้องประชุม ด้วยเงินงบประมาณและเงินบำรุงการศึกษาสปช.601/26 จำนวน 6 ที่นั่ง ด้วยเงินงบประมาณทั้งสิ้น 4,373,231 บาท และโรงเรียนหาเพิ่มอีก 420,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,793,231 บาท
วันที่ 26 ธันวาคม 2545 นายสำเริง กุจิรพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมฐานบินกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ได้ย้ายมารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครปฐม สร้างโครงหลังคาเหล็กเป็นรูปโดม โดยได้รับเงินสนับสนุนจากสมาคมครูและผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุบาลนครปฐม คลุมพื้นที่สนามที่ได้ปรับปรุงให้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมและเป็นสนามกีฬาในร่ม และปรับปรุงชั้นล่างของอาคาร "ร.ศ.200" ให้เป็นอาคารโภชนาการโดยได้รับความอนุเคราะห์จากหลวงพ่อพูล อตตรกโข และพระครูวินัยธร จิตตพงษ์ วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ได้ขยายห้องเรียนและเปิดรับนักเรียนเพิ่มขึ้นในหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ ได้พัฒนาบุคลากรเพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับปรุงด้านการเรียนการสอน โดยจัดพาคณะครูไปศึกษาดูงาน และจัดพานักเรียนไปเรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนในต่างประเทศ ปรับปรุงอาคารเรียนทุกหลัง ทาสี ปูพื้นกระเบื้อง ปรับปรุงห้องประชุม ห้องเรียน ระบบไฟฟ้า ระบบเสียง ท่อระบายน้ำ สร้างสระว่ายน้ำ ศูนย์ดนตรี สนามเด็กเล่นสำหรับเด็กอนุบาล ห้องบอล สวนน้ำตก สวนพฤกษศาสตร์ สวนหมอก ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ แหล่งเรียนรู้ที่ส่งเสริม และเอื้อต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปรับปรุงโรงอาหารให้ถูกสุขลักษณะและได้มาตรฐานตามที่กระทรวงสาธารณะสุขกำหนดโดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วย ตลอดจนปรับสภาพภูมิทัศน์โดยรอบบริเวณของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนเกิดความเพลิดเพลินและมีความสุขเมื่ออยู่ในสถานศึกษามากขึ้น จนทำให้โรงเรียนอนุบาลนครปฐมเป็นโรงเรียนที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป และเป็นโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นโรงเรียนในฝัน หรือโรงเรียนดีใกล้บ้าน ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากเข้ามาเรียน
ปัจจุบันโรงเรียนอนุบาลนครปฐมมีครูจำนวน 85 คน มีผู้บริหารโรงเรียน คือ ดร.สำเริง กุจิรพันธ์ และรองผู้อำนวยการ 3 คน คือ นางสาวจงรักษ์ ศรีทิพย์ ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารวิชาการ และทำหน้าที่ฝ่ายบริหารงบประมาณ นายไพโรจน์ มหอมตพงษ์ ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารทั่วไป และทำหน้าที่ฝ่ายบริหารงานบุคคล นางสาวกมลธร ระวิสะญา (รองผู้อำนวยการคนใหม่) และนายเชาวลิต ศรีศศลักษณ์ ทำหน้าที่ผู้ประสานงานหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ
คำขวัญ
วิชาการเด่น เน้นคุณธรรม กิจกรรมดี เทคโนโลยีทันสมัย พลานามัยสมบูรณ์
ปรัชญาโรงเรียนสอนให้เด็กมีความรู้จริง มีความประพฤติดี
และสามารถปรับตนให้อยู่ในสังคมได้ อย่างมีความสุข
คำขวัญ
วิชาการเด่น เน้นคุณธรรม กิจกรรมดี เทคโนโลยีทันสมัย พลานามัยสมบูรณ์
ปรัชญาโรงเรียนสอนให้เด็กมีความรู้จริง มีความประพฤติดี
และสามารถปรับตนให้อยู่ในสังคมได้ อย่างมีความสุข
การบริหารงานของโรงเรียนอนุบาลนครปฐม
Ø ด้านบุคลากร ปัจจุบันโรงเรียนอนุบาลนครปฐมมีครูจำนวน 85 คน มีผู้บริหารโรงเรียน คือ ดร.สำเริง กุจิรพันธ์ และรองผู้อำนวยการ 3 คน คือ นางสาวจงรักษ์ ศรีทิพย์ ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารวิชาการ และทำหน้าที่ฝ่ายบริหารงบประมาณ นายไพโรจน์ มหอมตพงษ์ ทำหน้าที่ฝ่ายบริหารทั่วไป และทำหน้าที่ฝ่ายบริหารงานบุคคล นางสาวกมลธร ระวิสะญา (รองผู้อำนวยการคนใหม่) และนายเชาวลิต ศรีศศลักษณ์ ทำหน้าที่ผู้ประสานงานหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ
Ø ด้านงบประมาณ ได้รับงบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาล สมาคมครูและผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุบาลนครปฐม
Ø ด้านวิชาการ ได้เปิดทำการสอนหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ และจ้างอาจารย์ชาวต่างประเทศมาสอนภาษาอังกฤษแก่นักเรียน ได้ขยายห้องเรียนและเปิดรับนักเรียนเพิ่มขึ้นในหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ ได้พัฒนาบุคลากรเพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับปรุงด้านการเรียนการสอน โดยจัดพาคณะครูไปศึกษาดูงานและจัดพานักเรียนไปเรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนในต่างประเทศ จัดทำโครงการห้องเรียนเล็กในห้องเรียนใหญ่เพื่อแก้ปัญหาจำนวนเด็กมากเกินเกณฑ์ที่โรงเรียนรับได้ในแต่ละห้องเรียน
Ø ด้านทั่วไป ปรับปรุงอาคารเรียน ทาสี ปูพื้นกระเบื้อง ปรับปรุงห้องประชุม ห้องเรียน ระบบไฟฟ้า ระบบเสียง ท่อระบายน้ำ สร้างสระว่ายน้ำ ศูนย์ดนตรี สนามเด็กเล่นสำหรับเด็กอนุบาล ห้องบอล สวนน้ำตก สวนพฤกษศาสตร์ สวนหมอก ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ แหล่งเรียนรู้ที่ส่งเสริมและเอื้อต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ปรับปรุงโรงอาหารให้ถูกสุขลักษณะและได้มาตรฐานตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วย ตลอดจนปรับสภาพภูมิทัศน์โดยรอบบริเวณของโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนเกิดความเพลิดเพลินและมีความสุขเมื่ออยู่ในสถานศึกษามากขึ้นจนทำให้โรงเรียนอนุบาลนครปฐมเป็นโรงเรียนที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปและเป็นโรงเรียนที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็นโรงเรียนในฝัน หรือโรงเรียนดีใกล้บ้าน
การจัดบรรยากาศการเรียนการสอน
Ø บรรยากาศภายนอกห้องเรียน
มีพื้นที่สีเขียวอย่างเพียงพอ ให้ความร่มรื่นตลอดเส้นทาง มีสวนพฤกษศาสตร์ มีการจัดสรรพื้นที่ทุกจุดในโรงเรียนเพื่อการใช้สอยอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด เช่น จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามสวนหย่อม ศาลา ทางเดิน หน้าห้องสมุด ลานเอนกประสงค์ สามารถประยุกต์ใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ทั้งหมดอย่างหลากหลาย มีแหล่งการเรียนรู้โดยรอบบริเวณโรงเรียน มีภาพวาดตามผนังอาคารตามทางเดิน ซึ่งสามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักเรียนได้
Ø บรรยากาศภายในห้องเรียน
มีการจัดประสบการณ์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก เช่น มุมธรรมชาติ มุมวิทยาศาสตร์ มุมบล็อก มุมเครื่องเล่นสัมผัส มุมหนังสือและมุมศิลปะ ฯ มีการจัดการแสดงผลงานนักเรียนทุกคนและจัดเก็บ
ผลงานของนักเรียนอย่างเป็นระบบโดยใช้แฟ้มพัฒนางาน มีการจัดป้ายนิเทศตามหน่วยการเรียนรู้ในแต่ละสัปดาห์ มีกฎ ข้อตกลงของห้องเรียน ตารางเวรประจำวันในทุกห้องเรียน
สภาพบรรยากาศโดยรวม มีการจัดวางสิ่งของ วัสดุอุปกรณ์เป็นสัดส่วน แยกเก็บเป็นมุมต่างๆอย่างเป็นระเบียบ บรรยากาศห้องเรียนมีแสงสว่างเพียงพอ อากาศถ่ายเทสะดวก มีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอกับจำนวนนักเรียนในแต่ละกิจกรรม
รูปแบบการเรียนการสอนระดับปฐมวัย
จัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยเปิดทำการสอน ดังนี้ คือ
1. ระดับชั้นปฐมวัยปีที่ 1-2 จำนวน 13 ห้องเรียนโดยเสียค่าเล่าเรียน 8,700 บาทต่อปี
2. ห้องเรียนโปรแกรมภาษาอังกฤษ ( English Program ) จำนวน 4 ห้องเรียน โดยเสียค่าเล่าเรียน 50,000 บาทต่อปี
3. ห้องเรียนโปรแกรมภาษาอังกฤษ ( English Program ) ห้องเตรียมความพร้อม
จำนวน 1 ห้องเรียน
มีจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรมตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 และมีการวิเคราะห์ ปรับปรุง พัฒนาหลักสูตรโดยมีคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัย
ราชภัฏนครปฐมเป็นที่ปรึกษา โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนได้คิดวิเคราะห์ก่อนลงมือทำกิจกรรมทุกครั้งและจัดการเรียนการสอนโดยใช้นวัตกรรมการสอนแบบ Project Approach ซึ่งเป็นการสอนที่ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ให้กับนักเรียนปฐมวัยได้เป็นอย่างดี
การจัดกิจกรรมหลัก 6 กิจกรรม ที่ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ ได้แก่
Ø กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ เช่น ในการเรียนหน่วยนก จะให้เด็กคิดและทำท่าทางเลียนแบบนก
ตามจินตนาการเป็นต้น
Ø กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สอนโดยเน้นการใช้คำถามปลายเปิดเพื่อฝึกให้เด็กได้คิดหาคำตอบ
คำถามที่ใช้มีทั้งคำถามระดับสูงและระดับต่ำ ทั้งนี้ครูต้องให้เวลากับเด็กในการคิดวิเคราะห์ในการตอบคำถาม
Ø กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการของตนเองอย่างหลากหลายในการทำงานศิลปะรูปแบบต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
3.1 ผลงานที่สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้
3.2 ผลงานที่เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกอย่างอิสระตามจินตนาการ
ทั้งนี้มีทั้งกิจกรรมศิลปะงานปั้น งานประดิษฐ์ การวาดภาพด้วยสีน้ำ สีเทียน สีชอล์ค การเล่นกับสี การพิมพ์ภาพด้วยวัสดุต่างๆ เป็นต้น เด็กจะได้เลือกทำงานศิลปะ 2 ชิ้น ตามความสนใจและเมื่อหมดเวลาถ้าทำงานไม่เสร็จสามารถมาทำงานต่อไปในวันรุ่งขึ้นได้
Ø กิจกรรมเสรี ให้เด็กได้เลือกเล่นตามมุมต่างๆ อย่างอิสระตามความสนใจ รวมทั้งการเล่นบทบาสมมติ เช่น การเล่นเป็นแม่ เด็กก็จะคิดว่าแม่ต้องทำอย่างไร มีบทบาทอย่างไรหรือเล่นเป็นช่างทำผม เป็นต้น
Ø กิจกรรมกลางแจ้ง ส่งเสริมให้เด็กได้เล่นของเล่นสำเร็จรูปและการเล่นอิสระ ของเล่นสำเร็จรูปได้แก่ เครื่องเล่นสนาม ห้องบอล เป็นต้น ส่วนการเล่นอิสระได้แก่ การเล่นเกมการละเล่นต่างๆเช่น มอญซ่อนผ้า แม่งูเอ๋ย เป็นต้น
Ø กิจกรรมเกมการศึกษา ให้เด็กเล่นเกมการศึกษาในช่วงเย็นก่อนกลับบ้านเพื่อฝึกทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ให้กับเด็ก เช่น เกมโดมิโน เกมจับคู่ เกมจัดหมวดหมู่ เป็นต้น
การใช้นวัตกรรมการสอนแบบ โครงการ/โครงงาน ( Project Approach )
เป็นวิธีการสอนแบบโครงการ ที่เน้นการฝึกทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ให้กับเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดี การสอนโครงการแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้ คือ
ระยะที่ 1 ระยะเริ่มต้นโครงการ
เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ใช้คำถามปลายเปิดกับนักเรียนเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เด็กคิดตอบคำถามโดยใช้ความรู้และประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับเรื่องที่เด็กสนใจ
ระยะที่ 2 ระยะสืบค้น
เป็นระยะการสืบค้นหาคำตอบจากคำถามที่เด็กอยากรู้โดยใช้วิธีการต่างๆ เช่นการสังเกต สัมผัส สำรวจจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ การสัมภาษณ์ตลอดจนการเชิญวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ มาให้ความรู้แก่เด็กๆ
ระยะที่ 3 ระยะสรุปโครงการ
เป็นการจัดนิทรรศการเพื่อสรุปความรู้ที่ได้รับทั้งหมด พร้อมทั้งมีการนำเสนอผลงานของนักเรียนที่เกิดจากการเรียนการสอนแบบโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้มีการจัดกิจกรรมเสริมพิเศษ 5 กิจกรรม ได้แก่
- ว่ายน้ำ
- คอมพิวเตอร์
- ภาษาอังกฤษ
- โยคะ
- นาฏศิลป์
ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนประจำวันได้มีการแจ้งถึงนโยบายของโรงเรียนให้ผู้ปกครอง
รับทราบถึงแนวการจัดการเรียนการสอนซึ่งจะไม่เน้นการสอนอ่าน – เขียน ไม่มีการบ้าน แต่มีการสอนเสริม พิเศษทักษะการอ่าน – เขียน หลังเลิกเรียนในเวลา 16.00 – 17.00 น. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ปกครองไม่มีการบังคับ ( เสียค่าใช้จ่าย 400 บาทต่อเดือน โดยทางโรงเรียนหักเป็นค่าสวัสดิการครูและโรงเรียน 100 บาท )
ประเมินผลการจัดการเรียนการสอน
Ø ใช้แบบประเมินผลตามหลักพหุปัญญา
Ø ประเมินผลตามสภาพจริง
Ø ประเมินผลจากผลงานนักเรียนโดยใช้แฟ้มพัฒนางาน
Ø ประเมินผลตามหน่วยการเรียนโดยครูและผู้ปกครอง
ประโยชน์ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้
Ø จะใช้พื้นที่ที่มีอยู่ในโรงเรียนให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
Ø จะเน้นให้เด็กทำผลงานศิลปะเพื่อเป็นร่องรอยของการพัฒนางานที่ชัดเจนและจะพัฒนางานศิลปะให้มีรูปแบบที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดให้กับเด็กได้อย่างเต็มตามศักยภาพ
Ø จะนำการจัดการเรียนการสอนแบบ Project Approach ไปใช้ที่โรงเรียนเพื่อพัฒนาทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ให้กับเด็กปฐมวัย
Ø จะจัดทำป้ายนิเทศทุกหน่วยการเรียนในแต่ละสัปดาห์ รวมทั้งจัดทำข่าวสาร บ้านและโรงเรียนเพื่อสรุปความรู้ที่เด็กๆได้รับและเรียนรู้ให้ผู้ปกครองรับทราบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น